
ย้อนกลับไปเมื่อปี พ.ศ. 2542 ได้มีการสำรวจครัวเรือนชนบท จำนวน 2.8 ล้านครัวเรือน พบว่า 45% ยังคงใช้เตาถ่าน หรือ “เตาอั้งโล่” โดยใช้ถ่านไม้เป็นเชื้อเพลิงเฉลี่ยมากถึง 500 กก./ครัวเรือน/ปี ราคาจำหน่ายใบละ 50-60 บาท อายุการใช้งานประมาณ 6 เดือน ให้ความร้อนเพียง 21% ด้านเชื้อเพลิงถ่าน หรือ ฟืน ก็มีแนวโน้มราคาสูงขึ้น
กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) กระทรวงพลังงาน จึงได้นำงานวิจัย “เตาซุปเปอร์อั้งโล่” หรือ “เตามหาเศรษฐี” จัดทำเป็นโครงการส่งเสริมการใช้เตาหุงต้มและเตาชีวมวลประสิทธิภาพสูงขึ้น เพื่อกระตุ้นการผลิตและการใช้เตาหุงต้มประสิทธิภาพสูง
โดยการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ การสนับสนุนด้านการตลาด และการบริหารธุรกิจกับผู้ผลิตเตา รวมถึงการสร้างเครือข่ายความร่วมมือจากร้านค้าปลีก ค้าส่ง และบริษัทที่เป็นศูนย์กลางการซื้อขายขนาดใหญ่ทั้งในระดับชุมชน อำเภอ และจังหวัด เพื่อให้เกิดความมั่นใจในระบบตลาด การส่งเสริมการใช้งานด้วยกลยุทธ์ทางการตลาด ตลอดจนการติดตามประเมินผลเพื่อปรับกลยุทธ์ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด
โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมให้มีการผลิตและการใช้เตาหุงต้มและเตาชีวมวลประสิทธิภาพสูงไม่น้อยกว่า 1.5 ล้านใบ ภายในระยะเวลา 5 ปี ซึ่งจะสามารถลดการใช้พลังงานจากถ่านไม้คิดเป็น 123.3 ktoe โดยในปีแรกนี้ได้มีการกำหนดเป้าหมายในการส่งเสริมการใช้และการผลิตเตาประสิทธิภาพสูงไม่น้อยกว่า 180,000 ใบ สามารถลดการใช้พลังงานจากถ่านไม้คิดเป็น 14.8 ktoe
ซึ่งจะแจกเตาให้ประชาชนในพื้นที่นำร่องได้ทดลองใช้ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และกรุงเทพมหานคร เพื่อเป็นการเผยแพร่ และประชาสัมพันธ์โครงการส่งเสริมการใช้เตาหุงต้มและเตาชีวมวลประสิทธิภาพสูงให้ทราบอย่างทั่วถึงและเป็นการกระตุ้นให้เกิดการใช้เตาประสิทธิภาพสูงอย่างยั่งยืน
ลักษณะพิเศษของเตาซูเปอร์อั้งโล่ หรือ เตามหาเศรษฐี
- มีน้ำหนักเบา ทำจากดินปั้นเตาคุณภาพดีทนทานกว่า อายุการใช้งานเฉลี่ยสูงกว่าอั้งโล่ธรรมดานาน 2 ปี สัดส่วนซุปเปอร์อั้งโล่ที่มีผลต่อการใช้งานที่ดีกว่า
- รูปทรงของเตา ถูกออกแบบให้หมุนเวียนความร้อนภายในดีขึ้น รูปร่างของจึงไม่หนาเทอะทะ มีน้ำหนักเบากว่าเตาอั้งโล่ธรรมดา
- ปากเตา มีลักษณะลาดเอียงลงด้านใน สามารถวางหม้อหุงต้มได้ 9 ขนาด ตั้งแต่หม้อเบอร์ 16 -32 ป้องกันก้นหม้อสัมผัสกับเชื้อเพลิงโดยตรง
- เส้าเตา สูงกว่าขอบเตาที่เสมอกันโดยรอบเล็กน้อย ทำให้สูญเสียความร้อนขณะหุงต้มน้อยกว่าเตาทั่วไปที่เส้าเตาสูง เกิดช่องว่างระหว่างก้นหม้อและขอบเตามาก เกิดการสูญเสียความร้อนโดยเปล่าประโยชน์
- ช่องใส่ถ่าน บรรจุได้ 400 – 500 กรัม พอเพียงต่อการทำอาหารในแต่ละมื้อ โดยไม่ต้องเพิ่มถ่านอีก ซึ่งสามารถให้ความร้อนสูง อุณหภูมิกลางเตาอยู่ที่ 1000 -1200 องศาเซลเซียส
- รังผึ้ง ตัวแปรสำคัญของการเปลี่ยนเตาใบใหม่ สำหรับซุปเปอร์อั้งโล่หมดห่วงไปอีกนาน เพราะรังผึ้งมีความหนา ทนทาน รูรังผึ้งเล็กและเรียว ดูดอากาศได้ดี
- ฉนวนกันความร้อน ระหว่างถังเปลือกเตากับตัวเตา ลดความร้อนขณะขนย้าย
เตาซุปเปอร์อั้งโล่ หรือเตามหาเศรษฐี จะมีราคาสูงกว่าเตาถ่านทั่วไปประมาณ 2-3 เท่า แต่เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าทั้งการใช้งานและรูปทรง เพราะประหยัดถ่านได้มากถึง 150 กิโลกรัม/ปี ตัวอย่างเช่น ถ่านไม้ในท้องตลาด ขายราคากิโลกรัมละ 5 บาท (ปี พ.ศ. 2542) จะสามารถประหยัดเงินค่าหุงต้มได้ปีละ 750 บาท/ครัวเรือน
ราคาถ่านมีแนวโน้มสูงขึ้นทุกปี ทำให้ผลประหยัดต่อครัวเรือนก็จะเพิ่มขึ้น ซึ่งถ้าทั้งชุมชนหันมาใช้เตาซุปเปอร์อั้งโล่ ก็จะเกิดเงินออมต่อทุกครัวเรือนทันที ด้วยการคืนทุนในระยะเวลาเพียงเดือนเศษ (กรณีที่ต้องซื้อถ่านใช้)